ทำความรู้จักกับการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD

หลายๆ คนน่าจะพอรู้จักกับรถยนต์ที่เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD กันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะเหล่าผู้ที่ใช้รถยนต์แบบ SUV แต่เราเชื่อเลยว่าน่าจะมีอีกหลายคนเลยที่ยังไม่รู้จักรถยนต์ที่เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD ว่ามีการทำงานแบบไหน และบทความนี้เราก็ได้รวบรวมรถยนต์ที่เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD ทุกประเภทมาฝากเพื่อนๆ กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย

ทำความรู้จักกับการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD

  • การทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD แบบพาร์ทไทม์ (Part Time) ระบบที่ส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้ในกระบะ PPV, SUV หรือรถที่เป็นรุ่นท็อป โดยผู้ขับยังสามารถเปลี่ยนระบบการขับเคลื่อน 2 ล้อ (4×2) เป็นขับเคลื่อน 4 ล้อได้ (4×4) ตามสภาพถนน แต่ระบบขับสี่จะเพิ่มอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงขึ้น จากการส่งกำลังกระจายไปทั้ง 4 ล้อ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อประเภทนี้ ผู้ขับขี่เลือกเปลี่ยนโหมดการใช้งานขณะขับขี่ได้ตามใจชอบ รวมถึงการล็อคระหว่างเพลาหน้าและหลัง ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถยนต์ได้ง่ายขึ้น เมื่อเจอถนนลื่น และถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสภาพถนน Off-Road (ออฟโรด) เกือบทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตาม การใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Part-time บนถนนแห้ง หรือ ถนนเรียบ อาจไม่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเท่าที่ควร
  • การทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD แบบฟูลไทม์ (Full Time) เป็นรถที่ 4WD มาแต่กำเนิด ไม่สามารถเปลี่ยนระบบส่งกำลังได้ เพราะต้องการสมรรถนะการขับที่ดี แต่ก็มีข้อเสียอย่างอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่สูง โดยมีชุดกระจายกำลังทำหน้าที่เป็นตัวกลางคอยแบ่งถ่ายกำลังขับเคลื่อนให้สมดุลกันระหว่างเพลาล้อหน้ากับเพลาล้อหลังเมื่อจำเป็น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบตลอดเวลานี้ ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินไปกับสมรรถนะการควบคุมรถยนต์ที่ดีเยี่ยมในทุกๆ สภาพถนน ไม่ว่าจะถนนนั้นจะแห้งหรือลื่นไถล อีกทั้งผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เมื่อเปิดระบบนี้ขึ้นมา
  • การทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD แบบเรียลไทม์ (Real Time) เป็นระบบที่สามารถสามารถเปิด-ปิดระบบได้อย่างเดียว เลือกโหมดแต่แรกไม่ได้ โดยปรกติแล้วรถจะขับเคลื่อน 2 ล้อเป็นหลัก แต่เมื่อใช้ลุยหรือเจอกรณีล้อหมุนฟรีผิดปรกติที่ตรวจโดยเซ็นเซอร์ที่ล้อ ก็จะถ่ายแรงบิดไปอีกชุดล้อ (หากขับหน้าก็ถ่ายแรงบิดไปล้อหลัง, ขับหลังก็ถ่ายแรงบิดไปล้อหน้า)

ทั้งนี้ เมื่อคุณมีรถยนต์คู่ใจแล้ว ก็อย่าลืมที่จะมีประกันภัยรถยนต์คู่ใจด้วยนะ ซึ่งก่อนการซื้อประกันภัยรถยนต์ทุกครั้งเราขอแนะนำให้เปรียบเทียบ ประกันภัยกันก่อน ซึ่งการเปรียบเทียบ ประกันภัยเพื่อนๆ สามารถเปรียบเทียบด้วยตนเอง หรือเข้าไปสอบถามกับโบรกเกอร์ต่างๆ ได้เลย แน่นอนว่าการเปรียบเทียบ ประกันภัยก่อนซื้อนั้นจะทำให้คุณได้รับความคุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอน